
การจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ความสำคัญและพันธกิจ

บริษัทตระหนักดีว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเอง รวมถึงปัญหาและความต้องการของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน และลดต้นทุนในการดำเนินงานทางธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการดำเนินธุรกิจทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ
หากองค์กรไม่สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการอยู่รอดของธุรกิจได้ ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและสร้างความยั่งยืน การมีนโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานวัตกรรมในระดับองค์กร รวมถึงกระบวนการพัฒนาและส่งเสริมวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม จึงเป็นสิ่งจำเป็น
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ 9:

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
แนวทางการบริหารจัดการ
บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์สูงสุดควบคู่ไปกับการทำธุรกิจโดยสร้างความตระหนักให้กับผู้บริหารและพนักงานค้นหาวิธีที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่
เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรและสร้างศักยภาพในการแข่งขัน สังคมและสิ่งแวดล้อมในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและค้นวิธีการใหม่ ส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อทำให้เกิดการลดต้นทุนในการดำเนินงาน และเพิ่มการควบคุมอย่างเป็นระบบ ตามนโยบายส่งเสริมนวัตกรรม
การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ในปี 2567 บริษัทได้พัฒนานวัตกรรมและการทำงานในรูปแบบดิจิทัล พร้อมพัฒนาช่องทางการชำระเงินให้สะดวกและปลอดภัยแก่ลูกค้า รวมถึงนำนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ สร้างการเติบโต และศักยภาพทางการแข่งขัน ตลอดจนพัฒนาต่อยอดให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย
ด้านสินเชื่อ

สินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปและสินเชื่อโซลาร์ปั้ม
สินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตร
นอกจากนี้ ยังมีบริการฉีดพ่นเพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเกษตรและประหยัดทรัพยากรน้ำที่ต้องสูญเสีย ซึ่งโดรนเพื่อการเกษตรจะสามารถประหยัดเวลาและสามารถฉีดพ่นได้ทั่วถึงอย่างสม่ำเสมอ และเป็นบริหารจัดการนวัตกรรม (Innovation Management) และบริการทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ สามารถเสริมสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้มีความหลากหลาย และตอบสนองต่อผู้ใช้บริการด้านการเกษตรอย่างมีประสิทธิผล
ด้านการเงิน

SAK Payment
โอนเงินให้ลูกค้า Direct Credit เมื่อสัญญาได้รับอนุมัติ เดิมบริษัทจ่ายเงินกู้ให้กับลูกค้าด้วยเงินสดเพียงอย่างเดียว ซึ่งได้พัฒนาให้สามารถจ่ายเงินให้กับลูกค้าด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้า เพื่อรองรับลูกค้าที่มีความพร้อมและความประสงค์ใช้บริการ โดยเริ่มต้นขยายการให้บริการครอบคลุมทุกสาขาตั้งแต่ปี 2565 มีฆการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของผู้ใช้เพิ่มเติม สามารถลดภาระงานของพนักงาน ค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงจากการถือเงินสด
ปัจจุบันได้รับความสนใจและความไว้วางใจจากลูกค้า มีการโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีการโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้าโดยตรงจำนวน 185,688 สัญญา และในปี 2567 จำนวน 246,412 สัญญา หรือเพิ่มขึ้น 32.7% ของปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดปริมาณการใช้น้ำมัน จำนวนประมาณ 66 ลิตร / สาขา / ปี คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 2,145,990 บาท
รับชำระเงินค่างวดด้วย QR Code ผ่านจุดบริการ
เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส และ Cross Bank Bill Payment จากเดิมลูกค้าต้องติดต่อผ่านสาขาของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการชำระเงิน ลดความเสี่ยงจากการถือเงินสด และเป็นการตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงโดยเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับตนเองมากขึ้น
ในปี 2566 มีลูกค้าชำระค่างวดผ่าน QR Code ผ่านจุดบริการ เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส และ Cross Bank Bill Payment จำนวน 759,694 รายการ / ปี และในปี 2567 จำนวน 1,124,438 รายการ/ปี หรือเพิ่มขึ้น 48.00% ของปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของลูกค้าต่อรายจำนวนประมาณ 843,300 ลิตร / สาขา / ปี คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 29,500,000 บาท
ด้านลูกค้า

SAK CRM
Application “ศักดิ์สยาม”
ด้านกระบวนการดำเนินงาน
