1. หลักการและเหตุผล

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ และกำหนดแนวปฏิบัติผ่านการประชุมคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง โดยกำหนดระดับความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ (Risk Appetite) พร้อมมุ่งมั่นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

บริษัทจึงได้กำหนดแนวทาง และมาตรการส่งเสริมและแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน ดังนี้:

• พลังงาน – ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน
• การคมนาคม – สนับสนุนการเดินทางร่วมกันของบุคลากร
• การใช้พลังงานในสำนักงาน – ปรับพฤติกรรม เช่น เปิด-ปิดแอร์ตามเวลา ใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และลดการใช้กระดาษโดยเน้นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์

2. วัตถุประสงค์โครงการ

1. 2.1)
   เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯ เข้าใจหลักการสามารถคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรได้
2. 2.2)
   เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯ ดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกโดยใช้ข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์
3. 2.3)
   ประเมินศักยภาพของกิจกรรมและเทคโนโลยี พร้อมวิเคราะห์มาตรการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมต่อการดำเนินงานของบริษัท
4. 2.4)
   พัฒนาแผนงานและแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
5. 2.5)
   เพื่อดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ผ่านมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์พลังงาน

3. เป้าหมาย ขอบเขต

1. 3.1)
   เป้าหมายเชิงปริมาณ : พนักงานทุกคนในบริษัท
2. 3.2)
   เป้าหมายเชิงคุณภาพ : พนักงานให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน และสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน

4. ผู้รับผิดชอบโครงการ

นายชวลิต ภานผา และคณะทำงานฯ ฝ่ายบุคคล และคณะทำงานฝ่ายบริหารความเสี่ยง

5. ระยะเวลาดำเนินการ

เดือนมกราคม - เดือนธันวาคม ปี 2568

6. แผนบริหารจัดการความเสี่ยง และแนวทางมาตรการดำเนินกิจกรรมการส่งเสริม และมีส่วนช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและบรรเทาภาวะโลกร้อน ตามคำแนะนำในคู่มือแนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมกับที่ปรึกษาโครงการ

1. 6.1)
   ดำเนินการสำรวจ และรวบรวมกิจกรรมที่เป็นแหล่งปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกภายในขอบเขตของบริษัทฯ
2. 6.2)
   คำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ครอบคลุมการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หรือเทียบเท่า ทั้งหมด 3 ประเภท

การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร พิจารณาจาก 3 ประเภท (Scope) ดังนี้

Scope 1 : ก๊าซเรือนกระจกที่มาจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรโดยตรง เช่น การเผาไหม้ของเครื่องจักร การเผาไหม้ของพาหนะขององค์กร การจัดการขยะของเสีย การบำบัดน้ำเสีย การรั่วซึม/รั่วไหลจากกระบวนการหรือกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

Scope 2 : ก๊าซเรือนกระจกที่มาจากกิจกรรมทางอ้อมโดยการใช้พลังงาน ได้แก่ การซื้อพลังงานมาใช้ในองค์กร เช่น พลังงานไฟฟ้า พลังงานความร้อน พลังงานไอน้ำ เป็นต้น

Scope 3 : ก๊าซเรือนกระจกที่มาจากกิจกรรมทางอ้อมอื่น ๆ เช่น การเดินทางของพนักงานด้วยพาหนะที่ไม่ใช่ขององค์กร การเดินทางไปสัมมนานอกสถานที่ การใช้ยานพาหนะของลูกค้าแต่กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นของบริษัท รวมถึงการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เช่น น้ำประปา กระดาษ เป็นต้น

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) คือ การแสดงแหล่งปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก โดยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยและดูดกลับเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งถูกคำนวณออกมาในรูปแบบของคาร์บอนไดออกไซด์หรือเทียบเท่า

1. 6.3)
   รับการทวนสอบ และรับรองข้อมูลการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร Scope 1 – 3 ประจำปี โดยผู้ทวนสอบที่ได้รับใบอนุญาตจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
2. 6.4)
   จัดทำรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร เพื่อยื่นขออนุญาตใช้เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุต พริ้นท์องค์กร
3. 6.5)
   ประเมินศักยภาพของกิจกรรม และเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการลดก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับบริบทองค์กร พร้อมวิเคราะห์ข้อจำกัดทางเทคนิคของแต่ละแนวทาง โดยทำงานร่วมกับที่ปรึกษาโครงการ
4. 6.6)
   จัดทำแผน และแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนขององค์กร ดังนี้

7. การวัดผล/เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้ก่อน - หลังการดำเนินการ

1. 7.1)
   ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567
2. 7.2)
   ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567
3. 7.3)
   ปริมาณการใช้น้ำประปา ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567
4. 7.4)
   ปริมาณการใช้กระดาษ ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567

สรุปผลการวัดผล/เปรียบเทียบโครงการส่งเสริมการจัดการด้านความยั่งยืน เรื่อง การอนุรักษ์พลังงาน

8. สรุปผลการทวนสอบประจำปี 2567

ผลการทวนสอบจาก ECEE Company Limited รายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ไม่พบหลักฐานที่แสดงว่า มีข้อมูลที่มีสาระสำคัญที่ไม่ถูกต้อง และไม่พบว่ามีการแสดงปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรที่ไม่สมควร

หมายเหตุ รายได้รวมตามงบการเงิน ปี 2566 เท่ากับ 2,739,813,625 บาท, ปี 2567 เท่ากับ 3,123,506,996 บาท และอักษรย่อของ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂eq)

โดยมีเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพริ้น ประเภทที่ 1 - 3 ลดลง 5% ในปี 2568

9. การติดตาม และประเมินผลตามมาตรการ

1. 9.1)
   ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567
2. 9.2)
   ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567
3. 9.3)
   ปริมาณการใช้น้ำประปา ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567
4. 9.4)
   ปริมาณการใช้กระดาษ ต่อรายได้รวม ปี 2566 เปรียบเทียบกับปี 2567

10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. 10.1)
   บริษัทฯ มีส่วนร่วมช่วยลดภาวะโลกร้อน จากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
2. 10.2)
   บริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานไฟฟ้า, พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง, พลังงานน้ำ และปริมาณการใช้กระดาษ
3. 10.3)
   นำผลจากการวัดประเมินกิจกรรมการใช้พลังงาน มาวิเคราะห์หาสาเหตุของการเพิ่มขึ้น/ลดลง และนำมาพิจารณาปรับปรุงแก้ไข เพื่อเพิ่มมาตรการควบคุมให้ดีขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน และค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ
4. 10.4)
   บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ด้วยพนักงานและผู้บริหารตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตมากขึ้น
5. 10.5)
   มีการติดตาม และควบคุมผลการดำเนินงานกิจกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตาม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG)
6. 10.6)
   บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการลดใช้พลังงานลง 5% ทุกประเภท ต่อรายได้รวม